ธนินท์ เจียรวนนท์ หาโรงเรียนให้ลูก

 

ศุภชัย เจียรวนนท์

 เกิด 24 มีนาคม 2510

 การศึกษา

ประถมศึกษา โรงเรียนสมถวิล, พิพัฒนา, Taipei American School ไต้หวัน (ป.3),

เซนต์ดอมินิค

มัธยมศึกษา, อัสสัมชัญ (ม.1-3), The Shipley School

(เกรด 9), Dwight-Englewood School (3 ปี)

อุดมศึกษา B.A. (Finance) Boston University 2532

เส้นทางการศึกษาของศุภชัย แม้จะดูแปลกกว่าพี่น้องท้องเดียวกัน ตรงที่เขาผ่านประสบการณ์การเปลี่ยนโรงเรียนมามากมาย แต่ความคิดที่ชัดเจนมีอยู่ประการหนึ่งที่เหมือนกัน คือพวกเขาได้รับอิทธิพลจากโรงเรียนในระบบอเมริกัน

 เขายอมรับว่าอิทธิพลความคิดในเรื่องการศึกษาที่เขาประทับใจมากที่สุด คือได้มีโอกาสเข้าโรงเรียนระบบอเมริกันที่ไต้หวัน 1 ปี “ผมคิดว่าจะสร้างคน ต้องสร้างตอนประถม ช่วงนั้นสำคัญที่สุดแล้ว ความมีเหตุมีผลของคน ความมั่นใจ จินตนาการของเด็กเกิดขึ้นช่วงนั้น” เขากล่าว และเน้นว่าประสบการณ์ที่ไต้หวันประทับใจมาก “ผมมีจุดหักเห ตอนที่อยู่ประถม 3 ตอนไปเรียนโรงเรียนนานาชาติที่ไต้หวัน เสียเวลาไป 1 ปี ผมได้จากตรงนั้น ผมยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ โรงเรียนจัดนิทรรศการ ซึ่งมีบ่อยมาก ครูประจำชั้นบอกว่า เด็กนักเรียนทำอะไรก็ได้ ให้เอามาโชว์มาขาย ผมวาดรูป Bug bunny เอามาตั้งโชว์ ครูมาถึงชม และขอซื้อ นั่นเป็นการทำการค้าครั้งแรกในชีวิตผม ขายไป 10 เซ็นต์ครูอีกคนขอซื้อ ที่จริงก็รู้ว่า เขาต้องการสร้างให้เด็กรู้สึกถึงคุณค่า”

 ทุกวันนี้ เขามีบุตร 2 คน อายุ 5 กับ 7 ขวบ เขาให้เข้าโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย

 ส่วนการศึกษาระดับมัธยมในต่างประเทศ ศุภชัยบอกว่าฝึกความอดทน

 โรงเรียนในสหรัฐฯ ทั้งสองแห่งที่เขาเรียนล้วนเป็นโรงเรียนเอกชนระบบไปกลับที่ดี ค่าเล่าเรียนแพงระดับ 15,000 เหรียญสหรัฐต่อปี

 The Shipley School ตั้งขึ้นในปี 1894 (พ.ศ.2437) เริ่มด้วยรับเฉพาะเด็กหญิง ต่อมาในปี 1972 (2515) ก็เปิดรับเด็กชาย กลายเป็นสหศึกษา เป็นอีกแบบหนึ่งของโรงเรียนมัธยมของเอกชนชั้นนำในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเข้ากับกระแสสหศึกษาในสหรัฐฯ ในทศวรรษ 1970 ตั้งอยู่บนเนื้อที่เพียง 36 เอเคอร์ในชุมชนชานเมือง ห่างไปทางทิศตะวันตกเพียง 12 ไมล์ของ Philadelphia อยู่ห่างจาก New York ประมาณ 90 ไมล์ และ Washington D.C. ประมาณ 140 ไมล์

 “Shipley เน้นเสมอ นอกเหนือจากความเป็นเลิศในด้านการเรียนและกีฬา โครงการบริการชุมชนของโรงเรียนคือ สิ่งที่นักเรียนทุกคนจะต้องทำก่อนจะมีสิทธิจบการศึกษาความเป็นเลิศของ Shipley เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีการแข่งขันสูงยังยอมรับ มหาวิทยาลัยที่นักเรียนเลือกเข้าเรียนต่อมากเป็นพิเศษคือ มหาวิทยาลัย Pennsylvania Shipley ประสบความสำเร็จเพราะคัดเลือกนักเรียนที่มีความมุ่งมั่น ซึ่งได้พิสูจน์คุณสมบัติดังกล่าวมาแล้วจากโรงเรียนเดิม (ถ้ามาสมัครเรียนต่อมัธยมปลาย) ผู้สมัครจะต้องมีประวัติการให้ความร่วมมือในกิจกรรมของโรงเรียนอย่างเข้มข้น” หนังสือ The Best Private High School โดย Frank Leana ซึ่งรวบรวมโรงเรียนชั้นนำของสหรัฐฯ เพียงประมาณ 100 แห่ง กล่าวไว้

 เช่นเดียวกับ Dwight-Englewood School (D-E) ที่ย้ายตามพี่สาวคนหนึ่งที่เช่าอพาร์ตเมนต์ที่นิวยอร์ก โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 31 เอเคอร์ ในชานเมืองนิวยอร์ก “นักเรียนจะได้เรียนหลักสูตรศิลปศาสตร์ตามแบบแผนดั้งเดิม ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นมิตร มีความหลากหลาย และสบายๆ (ไม่บังคับให้ใส่เครื่องแบบ) ซึ่งจะเป็นที่ที่นักเรียนสามารถเป็นตัวของตัวเอง ในขณะที่กำลังเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูง นักเรียนจะได้รับการกระตุ้นให้สามารถพึ่งตัวเองมากขึ้นเป็นลำดับ ตลอดเวลา 4 ปีในโรงเรียนครูจะเป็นผู้ที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือให้นักเรียนค่อยๆ พัฒนาความรับผิดชอบและการตัดสินใจด้วยตนเอง นักเรียนแต่ละคนจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์อีก 1 คนที่นักเรียนเป็นผู้เลือกเอง คอยให้คำชี้แนะต่างๆ D-E ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม ดังนั้นในการพิจารณารับนักเรียนเข้าเรียน ผู้สมัครที่จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษคือ ผู้ที่มีประวัติเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนในโรงเรียนเดิมมาก่อน นักเรียนทุกคนจะต้องเรียนวิชาจริยธรรมและทำงานบริการชุมชน 40 ชั่วโมง ข้อกำหนดนี้สะท้อนความเชื่อของ D-E ว่า การศึกษาที่จะทำให้นักเรียนเป็นคนเต็มคน จะต้องให้การศึกษาเรื่องคุณค่าต่างๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจและสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนที่ใหญ่กว่าโรงเรียน และภายในสังคมโลกได้ D-E พยายามรักษาสัดส่วนนักเรียนในโรงเรียนให้มีภูมิหลังที่หลากหลาย เลียนแบบความหลากหลายของคนในสังคมจริงๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งด้านฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม เชื้อชาติ และวัฒนธรรม” (The Best Private High School โดย Frank Leana)

 ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนทั้งสองคัดมาจากหนังสือ “หาโรงเรียนให้ลูก” ของวิรัตน์ แสงทองคำ  

สำหรับพี่น้องคนอื่นๆ ของเขา แม้ว่าจะไม่ได้เปลี่ยนโรงเรียนมากเช่นเขา แต่สุดท้ายธนินท์ก็ยังมีสูตรสำเร็จว่า พวกเขาและเธอต้องเข้าโรงเรียนมัธยมในระดับเกรด 9 ที่สหรัฐฯ และจะเรียนโรงเรียนเอกชนชั้นดี โดยเฉพาะที่ New Jersey ดังเช่นสุภกิตเจียรวนนท์ หลังจากเรียนที่สิงคโปร์เป็นเวลานาน 12 ปี ก็เข้าที่ Pennington School ที่ New Jersey

 โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งปี 1838 (2381) เป็นโรงเรียนสหศึกษา มีทั้งประจำและไปกลับ ศุภชัยบอกว่าพี่ชายเข้าโรงเรียนประจำ โรงเรียนแห่งนี้นับเป็นโรงเรียนที่รับนักเรียนต่างชาติมากพอสมควรประมาณ 14% ค่าเล่าเรียนแพงพอสมควรเช่นโรงเรียนเอกชนชั้นนำในสหรัฐฯ สำหรับนักเรียนประจำปีละประมาณ 25,000 เหรียญสหรัฐ

คัดมาจากหนังสือ”ยุทธ์ศาสตร์เอาตัวรอด” 2545

ผู้เขียน: viratts

writer and farmer

ใส่ความเห็น